ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น คำพูดเหล่านี้ คือ วัฎจักรที่เราทุกคนต่างต้องเผชิญ เมื่อหมดอายุขัยของชีวิต ร่างก็ต้องนอนแน่นิ่งอยู่ในโลงศพ และสลายกลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด ในช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่ หากอยากพูด อยากบอกอะไรกับใครก็ควรรีบบอก เพราะเมื่อเสียชีวิตไปโอกาสที่จะพูดคุยกันก็สายเกินไปแล้ว แต่บางคนอาจมีความเชื่อว่าเราสามารถสื่อสารกับผู้เสียชีวิตได้โดยการเคาะโลงศพเรียก ซึ่งวันนี้ร้านพวงหรีด Wreath Station จะพาทุกคนไปไขความสงสัยเกี่ยวกับความเชื่อที่มีมาตั้งแต่โบราณอย่างการเคาะโลงศพนั้น เขาทำเพื่อสื่อสารอะไรกับดวงวิญญาณกัน
เคาะโลงเพื่อให้ผู้เสียชีวิตฟังพระสวด
ผู้เสียชีวิตที่หมดลมหายใจใหม่ ๆ อาจจะยังไม่รู้ตัวว่าตนเองได้เสียชีวิตแล้ว เราจึงต้องมีการนิมนต์พระมานำทางวิญญาณผู้ตาย มาทำพิธีศพ และฌาปนกิจตามความเชื่อทางศาสนา โดยเมื่อถึงเวลาพระสวด ญาติ ๆ มักเคาะโลงศพเบา ๆ เพื่อเป็นการเรียกนำทางให้มาฟังพระสวด และเพื่อเป็นการโมทนาบุญกุศลให้ได้รับบุญนั่นเอง
เคาะโลงศพเพื่อเชิญดวงวิญญาณมาทานอาหาร
เมื่อครั้งยังมีลมหายใจ เราทุกคนต่างต้องเคยผ่านโมเมนต์การเรียกคนในครอบครัวมาทานอาหารกันใช่ไหมคะ แต่เมื่อคนใดคนหนึ่งในครอบครัวเสียชีวิตไป การเรียกก็จะเปลี่ยนไปเป็นการเคาะโลงศพแทน โดยก่อนที่จะเคาะเรียกนั้น ผู้เป็นญาติอาจจะเตรียมอาหารพร้อมเครื่องดื่มที่ผู้เสียชีวิตชื่นชอบเป็นพิเศษไปตั้งไว้ข้างโลงศพ ตามด้วยจุดธูปบอกกล่าว โดยปักลงกระถางธูป 1 ดอก ตามด้วยปักลงบนอาหารแต่ละชนิด และเคาะที่โลงศพเพื่อเรียกมาทานอาหารนั่นเองค่ะ
นี่คือสองเหตุผลหลัก ๆ ที่ญาติ ๆ มักจะเคาะโลงศพกัน ถึงแม้คนที่มีลมหายใจอย่างเราจะไม่สามารถมองเห็นวิญญาณ แต่ก็เชื่อว่าวิญญาณต้องรับรู้ และได้รับในสิ่งดี ๆ ที่เราได้ทำให้อย่างแน่นอนค่ะ และถ้าหากใครกำลังมองหาพวงหรีดเพื่อนำไปแสดงความอาลัยอยู่ล่ะก็ อย่าลืมนึกถึงร้านพวงหรีด Wreath Station นะคะ รับจัดส่งพวงหรีดฟรีถึงศาลาวัดทั่วกรุงเทพมหานครเลยค่ะ
